การเล่นโป๊กเกอร์ไม่ว่าใครก็อยากจะเล่นเกมใหญ่ ๆ และได้นั่งในตำแหน่งที่ดีมาก ๆ แต่นั่นก็เป็นเพียงความฝันเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้วสถานการณ์ที่พบกันได้บ่อยก็คือเรามักจะได้ไพ่ที่ดีและเหมาะกับการเล่นเกมใหญ่ ๆ ทว่าที่นั่งดันไม่เป็นใจอย่างแถวโซน early position ไม่ก็ได้นั่งในตำแหน่งที่ดีก็จริง ดันได้ไพ่ Suited ที่เหมาะกับเกมเล็กเสียมากกว่า อย่างไพ่ KK ที่เราจะพูดถึงในบทความนี้หากเอาไปเล่นใน early position ก็ถือว่าเสี่ยงที่จะเสียต้นทุนมากเช่นกัน แต่หากอยากจะเสี่ยงก็ต้องมีกลยุทธ์เอาไว้รับมือด้วยเช่นกัน
การอ่าน Range คู่ต่อสู้เป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญในการสร้างกำไรเมื่อ Flop ออกมาแล้วซึ่งนั่นเป็นความชำนาญสำหรับมืออาชีพ แต่อย่างนักเล่นมือใหม่อย่าหาทำ 4 สิ่งต้องห้ามในช่วง Post-flop
เมื่อต้องนั่ง early position ต้องทำยังไงกับไพ่ KK
การเลือกไพ่ที่จะเล่นในช่วง Pre-flop ย่อมส่งผลถึงการตัดสินใจเล่นในช่วง Post-flop ว่าเราควรเล่นอย่างไร หรือตัดสินใจทำอะไรได้บ้าง ดังนั้นการได้ KK มาในตำแหน่ง early position เราจำเป็นต้องคุมเกมให้เล็กเท่าที่จะทำได้ พร้อมกับเก็บข้อมูลจากผู้เล่นอื่นให้ได้มากที่สุด
หากจะยึดตามหลักการ ABC การมีไพ่ KK ในมือ range ไพ่ที่เล่นได้ประกอบกับการนั่งในตำแหน่งดังกล่าวจะทำให้ผู้เล่นอื่นมีโอกาสหมอบสูงเมื่อเรา C-bet ลงไป เพราะการทำแบบนั้นจะทำให้พวกเขารู้ทันทีว่าเรากำลังมีไพ่ดี ๆ อยู่ในมือ ส่วนคนที่เลือก Call ตามส่วนมากก็จะถือไพ่ที่อ่อนกว่า เพียงแต่หวังว่าไพ่ Flop จะทำให้เราไปต่อไม่ได้แล้วก็คว้าเงินพอตนั้นไปก็แค่นั้น
ต่อให้พลาดไพ่ Flop จริงอย่างที่อีกฝ่ายคาดหวังเอาไว้ และอีกฝ่ายก็ยังมืออ่อนอยู่แถมยังไม่ยอมหมอบ ก็คงไม่มีใครอยากให้คู่ต่อสู้แบบนี้ Call ตามไปถึง River แน่ เพราะการถือแค่ Overpair มันไม่ได้การันตีว่าเราจะเล่นเกมใหญ่ได้จริง สิ่งที่ทำได้ก็มีแค่คุมเกมให้อยู่ในขนาดเล็กหรือกลางแค่นั้นเอง
หลายคนอาจจะไม่เข้าใจอะไรคือ Blocker และ ใช้ Blocker อย่างไรให้ได้เปรียบในเกมโป๊กเกอร์ วันนี้จะมาไขข้อสงสัยให้เข้าใจกันเลย
Limp-reraise
กลยุทธ์นี้มักจะถูกนำมาใช้กันบ่อยมาก เมื่อใดก็ตามที่เราได้ไพ่ KK และอยู่ในตำแหน่งนี้ สิ่งที่ต้องทำก็คือ Limp เข้าไปแล้วรอให้คนอื่น Raise ทันทีที่เราได้เล่นอีกครั้งให้ Reraise กลับไปให้หนักเท่าที่จะทำได้
ทว่าการ Limp-reraise มีข้อจำกัดตรงที่ใช้ได้กับพวก Loose รวมถึงผู้เล่นที่ไม่ค่อยสนใจอะไรมาก เพราะวิธีนี้จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของไพ่ในมือ อีกฝ่ายจะคาดเดาได้ว่าเราจะต้องมี AA, KK, QQ, AK หรือ JJ อยู่ในมือแล้ว การที่มีใครสักคนโดนเทคนิคนี้แล้วยัง Call ตาม หรือ All-in ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะถือ AA ไว้ก็ได้ เพราะไพ่อื่นไม่ค่อยทำอย่างนี้กัน แล้วคนที่ถือ QQ หรือ JJ ก็มักจะตัดสินใจหมอบเสียมากกว่า
ข้อจำกัดอีกอย่างก็คือการที่เราสร้างเกมที่มีมูลค่ามากเอาไว้ จะเป็นการบังคับให้ตัวเองต้องเข้าไปเล่นด้วยตำแหน่งที่ไม่สู้ดีนัก นั่นส่งผลให้อาจไม่มีใคร Raise ตามมาอย่างที่ต้องการได้เช่นกัน
ดังนั้นจำไว้ว่าถ้าไม่เจอพวกบ้า ๆ อยู่บนโต๊ะ หรือไม่มั่นใจว่าตัวเองจะสร้างภาพให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าถือไพ่อื่นอยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องเอา Limp-reraise มาใช้แต่อย่างใด
Limp-call
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจหากต้องการเข้าไปเล่นด้วยไพ่ KK ในตำแหน่ง early position วิธีการก็ไม่ยุ่งยากแค่ Limp เข้าก่อน หากมีใคร raise ก็ให้ call ตามเข้าไป แต่ว่าวิธีนี้จะอยู่คนละฝั่งกับ ABC และควรจะมีกลยุทธ์อื่นเข้ามาส่งเสริมกันด้วย
หากไม่มีใคร raise เราจะกลายเป็นคนแรกที่ได้เล่นในรอบ Flop ซึ่งถือว่าเป็นจุดอ่อนอย่างมากเพราะเราไม่มีข้อมูลของใครเลยในการเล่น ทางแก้ที่ดีที่สุดก็คือเราจะต้องคุม pot ให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อใดก็ตามที่มีคน raise ถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ call ตาม เพราะเรามีโอกาสที่จะเล่นในรอบ flop ด้วยไพ่ที่แข็งหรือดีที่สุด ขณะที่คนอื่นก็ยังคาดเดาไพ่ที่อยู่ในมือไม่ได้ อย่างไรก็ตามการที่ Flop จะออกมาเข้าทางเราก็ไม่ได้มีโอกาสให้เห็นกันบ่อยนักเช่นกัน
การเล่นรอบ Flop ด้วยไพ่ KK
สิ่งหนึ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือความสัมพันธ์ในการเล่นระหว่าง Pre-flop กับ Post-flop เพราะมันมีความเป็นไปได้ที่หลากหลายในสถานการณ์รวมถึง Flop ที่จะออกมาด้วย ซึ่งเราแบ่ง Flop ออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ และในแต่ละกลุ่มจะส่งผลกระทบที่แตกต่างกันออกไปดังนี้
Flop ที่ยอดเยี่ยม
ได้แก่ Flop ที่ประกอบไปด้วย K♦, 9♣ และ 2♥ การออกไพ่แบบนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าเราจะถือไพ่ที่ดีที่สุดในมือ สิ่งที่ต้องคิดก็คือทำอย่างไรให้ทำกำไรได้มากที่สุด ถ้าเรา raise ที่ Pre-flop ทางเลือกที่ดีก็มีแค่ต้องเพิ่มเดิมพันเข้าไปในช่วง Flop
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วคู่ต่อสู้ส่วนมากก็มักจะหมอบกันไป แต่ถ้าอีกฝ่ายยังตัดสินใจ Call หรือ Re-raise กลับมาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เล่นต่อ ในเมื่อความคุ้มค่ามันเลือกข้างเราเอาไว้แล้ว
ในขณะที่เราเลือก Limp เข้ามาในช่วง Pre-flop เราก็เลือกได้ว่าจะเป็นคนเปิดเดิมพันก่อน หรือจะให้คู่ต่อสู้เป็นฝ่ายตัดสินใจเดิมพันเหล่านั้น การทำเช่นนี้ในกรณีที่พวกเขาอาจถือ AA หรือ AK เอาไว้ จะทำให้อีกฝ่ายคิดว่ากำลังล่อเราเข้าไปติดกับอยู่
หากช่วง Pre-flop เราตัดสินใจ Re-raise กลับไป แล้วมีคนยอมเล่นต่อก็เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจถือ 99, 22 หรือ AA, AK เราก็อาจไม่ได้มูลค่ามากนักจากเดิมพัน เว้นแต่ว่าจะไปเจอ Aggressive ที่ถือ AK แบบนี้ก็พอจะได้ลุ้นเงินเดิมพันเพิ่มมาบางส่วน
Flop ที่มี A
การได้เจอไพ่ A อยู่ใน Flop เช่น A, 10 และ 6 อาจทำให้การเล่นของเราดูยุ่งยากยิ่งขึ้น เพราะมันจะทำให้ KK ที่อยู่ในมือเรามีค่าแค่คู่กลางในทันที
หลังจากที่ Limp เข้ามาแล้วแต่กลับมีคู่ต่อสู้เหลืออยู่หลายคน อาจทำให้เราต้องเลิกหวังที่จะให้เกมนี้เป็นเกมใหญ่ เพราะถ้ามีใครสักคนถือไพ่ A มาตั้งแต่ Pre-Flop นั่นหมายความว่าตอนนี้เขามีไพ่ที่ใหญ่กว่าอยู่แล้ว ต่อให้มีไพ่ KK ก็มีค่าไม่ต่างอะไรไปจากคู่สิบเลย
แม้ว่าเราจะเปิดเดิมพันในรอบ Pre-flop จะมีเรื่องให้กังวลแต่ก็ไม่ถึงกับต้องหมอบเสมอไป เพราะคนที่ Call เข้ามาอาจมี range ไพ่ที่กว้างกว่าส่วนใหญ่ก็ถือไพ่ที่เป็นรองอยู่แล้ว ทว่าในสถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่ควรจะไปทำให้เกมมันใหญ่มากนัก
จุดผิดพลาดที่นักเล่นโป๊กเกอร์มักจะทำเมื่อต้องเผชิญหน้ากับ Flop ที่มี A ก็คือถอดใจหมอบไปก่อนที่อีกฝ่ายจะโชว์ให้เห็นไพ่ในมือ กับอีกอย่างก็คือ 3-Bet พร้อมกับเพิ่มเงินลงไปจำนวนมากใน Pot
ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำจริง ๆ ก็คือคุมเกมให้ได้ หากอีกฝ่ายต้องการให้เราเล่นด้วยก็ต้องคุมเกมให้เล็กและพร้อมที่จะหมอบตลอดเวลา หากดูแล้วว่า Pot Odds ของเราไม่ไหวอย่าฝืนเด็ดขาด ยังไงก็ไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงอยู่แล้ว
ตรงกันข้ามหากเรา Re-raise มาจาก Pre-flop จะทำให้ range ไพ่ของอีกฝ่ายแคบลง ส่งผลให้คาดเดาไพ่คู่ต่อสู้ได้ง่ายยิ่งขึ้น การที่อีกฝ่ายจะถือ AA ไว้ในมือไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ เพราะเขาจะ Re-raise หรือ All-in กลับมาตั้งแต่ก่อน Flop ออก และเป็นไปได้สูงว่าเขาจะถือ QQ, JJ, AK หรือไพ่อื่นที่อยู่ใน range เอาไว้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบการเล่นของพวกเขาด้วย หากว่ามี QQ อยู่จริงเขาจะเริ่มคิดว่าคนอื่นก็อาจจะถือ AA, KK, AA หากในมือเขามี JJ ไพ่ QQ จะเพิ่มเข้าไปในความกังวลนั้นด้วย เรียกได้ว่าเป็นโอกาสดีที่เราจะเพิ่มเดิมพันเพื่อรวบ Pot นั้นมาเป็นของเรา
สิ่งที่ต้องระวังให้มากก็คือคนที่ Call หรือ Re-raise เพียงแค่อีกฝ่าย Call ตามเรา ก็สามารถสร้างความกังวลได้แล้ว เพราะไพ่ที่จะทำให้ตัดสินใจแบบนี้ได้มีแค่ไม่กี่อย่าง ทำให้โอกาสชนะของเราลดลงไปด้วย
ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมเผยจุดอ่อนออกมาให้เห็นและพร้อมที่จะ Call Re-raise ใส่เราล่ะก็ ควรที่จะหมอบเสียดีกว่า ต่อให้สิ่งที่เขาทำเป็นเพียงการ Bluff ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้อง Call ตามไปด้วย เพราะไพ่ที่มีก็ไม่ได้แกร่งอะไรมาก แถมบอร์ดแบบนี้ก็ไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงด้วย
Flop ที่ทำให้ติด Overpair
สำหรับสถานการณ์เช่นนี้อาจส่งผลให้เราเป็นคนที่มีไพ่ที่ดีที่สุดอยู่ในมือ เพียงแค่ Limp เข้าไปก็มีโอกาสที่จะได้เป็นผู้นำเกมทันที แต่ถ้ามีคน Call ตามเข้ามาก็ให้ระวังเอาไว้ก่อน เป็นไปได้ว่าเขาอาจรอสี รอเรียง ติดคู่สูง มี Overpair ที่ต่ำกว่า หรือติด Set ที่ Flop ก็ได้
หากเราเลือก Raise หรือ Re-raise เข้ามา ก็มีโอกาสมากที่จะชนะเกมนี้ เพียงแค่เพิ่มความระวังพวกที่มี QQ เพราะเขาอาจ Call ตามเราเข้ามาเพื่อให้ได้ลุ้นติด Set ที่ Flop เช่นกัน เว้นแต่ว่าเราจะได้เจอกับคู่ต่อสู้คนนั้นบ่อยจนจับทางได้
KK สร้างกำไรที่ early position ได้หรือไม่
การจะทำกำไรได้หรือไม่นั้น เราควรจะตอบคำถามตัวเองให้ได้เสียก่อนว่า ณ ขณะนั้นเรากำลังนำอยู่หรือตามอยู่ อย่าลืมว่าสถานการณ์ต่าง ๆ จะพาเราไปเจอกับการแพ้หรือชนะได้หลายรูปแบบ อย่างไรก็ตามในระยะยาวแล้ว KK ก็ยังถือว่าเป็นไพ่ที่ทำกำไรได้ดีทีเดียว ขอเพียงแค่เราคุมเกมไม่ให้ใหญ่เกินไปเพื่อลดความเสี่ยง หากทำได้ก็จะมีโอกาสทำกำไรได้มากเช่นกัน