หากเป็น live game poker คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเก็บข้อมูลคู่ต่อสู้ด้วยการจดบันทึก เพราะว่าระหว่างที่อ่านทางของอีกฝ่ายเราก็ต้องสร้างข้อมูลใหม่ ๆ ส่งไปให้คู่ต่อสู้รับรู้ด้วย แต่พอเป็น โป๊กเกอร์ออนไลน์ อะไรก็ดูง่ายขึ้น นอกจากจะสามารถเล่นพร้อมกันได้หลายโต๊ะแล้ว เรายังมีเวลามากพอที่จะเก็บข้อมูลคู่ต่อสู้แต่ละคนไว้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะโดนอีกฝ่ายอ่านท่าทีไร ว่าแต่ทีนี้จะเก็บข้อมูลอย่างไรให้ได้ผลและใช้ได้จริง บทความนี้มีคำตอบรอไว้แล้ว
ทำไมต้องเก็บข้อมูลด้วย
ข้อมูลถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการเล่นโป๊กเกอร์ เพราะนี่คือเกมที่ผู้เล่นจะต้องนำข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รับมาวิเคราะห์หากลยุทธ์ที่เหมาะสม เรียกได้ว่าใครมีข้อมูลเหนือกว่าก็ได้เปรียบนั่นเอง แล้วการจดบันทึกสไตล์การเล่นของคู่ต่อสู้ เวลาที่เห็น showdown แค่ไม่กี่ hands ก็มากพอที่จะคาดเดาได้แล้วว่าอีกฝ่ายมีสไตล์การเล่นรูปแบบใด ทีนี้ก็หาวิธีรับมือได้ไม่ยาก เพียงแค่มี 3 ปัจจัยสำคัญคือ สมาธิ, ข้อมูล และไฮไลท์
มีสมาธิและจำทุก Street ของคู่แข่งให้ได้
สิ่งสำคัญอย่างแรกเลยก็คือเราจะต้องมีสมาธิและสามารถจดจำทุก street ของคู่แข่งให้แม่น เก็บข้อมูลมาให้ได้มากที่สุด ในแต่ละแอคชั่นที่อีกฝ่ายเล่น ไปจนถึง bet size ในแต่ละ street เมื่อเรามีข้อมูลครบถ้วนทุก street ในหลาย ๆ hands ก็สามารถเอามารวบรวมและวิเคราะห์ได้ไม่ยากแล้ว
จดข้อมูลที่จำเป็น
เพื่อความรวดเร็วในการเก็บข้อมูล ให้เราเน้นไปเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น โดยจะต้องมี 5 อย่างนี้อยู่ด้วย ได้แก่
- Action ไล่มาเลยว่าตั้งแต่ pre-flop ไปจนถึง river เขามี Action อะไรออกมาบ้างในแต่ละ street ไม่ว่าจะเป็น 3-bet, 4-bet, all-in, c-bet, raise, check, check raise หรือ call ก็จดมาให้หมด
- Hand เราจะเห็นก็ต่อเมื่ออีกฝ่าย showdown จะทำให้เราเห็นภาพว่าคู่แข่งเล่น hand หรือ combo นี้ด้วยรูปแบบใด
- Position ให้จดไปทั้งของเราและคู่แข่ง จะช่วยให้รู้ว่า range ของอีกฝ่ายในการเลือก hand นั้นกว้างหรือแคบกว่าปกติมากน้อยเพียงใด
- Bet size ข้อมูลนี้จะบอกเราว่าคู่ต่อสู้มีความรู้เรื่อง bet size เพียงใด aggressive ขนาดไหน
- Board texture/runout จะช่วยให้รู้ว่าอีกฝ่ายเล่นถูกต้อง เหมาะสมกับ hand ที่มีบอร์ดแบบนั้น
ยกตัวอย่างเช่น
- เรานั่ง LJ มี AQs อยู่ในมือ เปิดไปที่ 2.5bb
- อีกฝ่ายที่นั่ง BTN 3-bet 8 ทำให้ BB กับ SB หมอบ ส่วนเรา call ตาม
- Flop ออก 952 rainbow เราตัดสินใจ check
- คู่ต่อสู้ bet มาครึ่ง pot เรา call
- Turn ออก 6 ทำให้เราติด flush draw
- คู่ต่อสู้ bet มาครึ่ง pot เรา call
- River ออก A
- คู่ต่อสู้ all-in เรา call
- คู่ต่อสู้ showdown เป็น JJ
จากเหตุการณ์เหล่านี้เราสามารถจดได้ว่า 3-bet JJ BTN vs LJ c-bet 50% pot flop 952 rb cbet turn 6 fd 50% pot all-in river A
ไฮไลท์คู่แข่ง
หลังจากที่ได้ข้อมูลคู่ต่อสู้มาเรียบร้อยแล้ว เราจะเอาสีมาไฮไลท์เพื่อให้รู้ว่าคู่ต่อสู้คนนี้เป็นประเภทไหน จะได้หากลยุทธ์มารับมือได้อย่างรวดเร็ว โดยเราจะแบ่งกลุ่มผู้เล่นออกเป็น 4 กลุ่ม คือ
- สายอ่อน passive พวกนี้เล่นไม่ค่อยดุ ไม่ค่อย raise ความถี่ในการ call ไพ่เล็กหรือกลางจะช่วยบอกได้ว่าพวกเขาเป็น tight หรือ loose
- สายแข็ง aggressive พวกนี้จะทำตรงกันข้ามกับกลุ่มแรกหมด มีการเล่นที่ดุดัน raise หรือ check-raise หลากหลาย บางครั้งอาจจะ bet หรือ raise บ่อยกว่าปกติ หรืออาจเล่น bet size ใหญ่ ๆ ใส่ bluff บ่อย
- สายสมดุล Balance พวกนี้จะเล่นแบบสมเหตุสมผลหน่อย มี bet / raise กันบ้างตามโอกาส บางทีอาจมี check ให้เห็น ที่สำคัญคือไม่ call ตามบ่อย สังเกตได้จากช่วง showdown จะเห็นว่าการเล่นของพวกเขาดูสมเหตุสมผลกับ hand นั้นมากกว่า 2 กลุ่มแรก
- สายมั่ว พวกนี้ไม่มีอะไรมาก นอกจากคิดว่าโป๊กเกอร์เป็นเกมวัดดวง หลายครั้งที่จะได้เห็น hand ที่ไม่ควรเล่นในช่วง showdown บาง session ก็ raise บ่อย all-in บ้าง bluff ในจังหวะที่ไม่ควรทำบ้าง เรียกได้ว่าเป็นพวกที่เล่นแบบไร้หลักการสุด ๆ
เมื่อรู้จักกับผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ กันไปแล้ว เราก็จะมาใช้สีแยก อาจจะใช้โทนสีที่มีความสอดคล้องกับสไตล์การเล่นของพวกเขา เช่น
- สีเหลือง แทน Weak
- สีเขียว แทน Weak – loose
- สีส้ม แทน Strong
- สีแดง แทน Strong – loose
- สีฟ้า แทน Balance
- สีม่วง แทนพวกเล่นมั่ว
จะเห็นว่าการเก็บข้อมูลสไตล์การเล่นของคู่ต่อสู้เป็นเรื่องที่ควรทำอย่างมาก เพราะมันจำเป็นสำหรับคนที่อยากจะเป็นนักเล่นโป๊กเกอร์มืออาชีพ ข้อมูลเหล่านี้ไม่เพียงแค่ช่วยให้เรารู้จักคู่ต่อสู้ แต่ยังช่วยให้เรามีการพัฒนาตัวเองในการวิเคราะห์ข้อมูล ปรับใช้กลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นหมั่นฝึกบันทึกข้อมูลอยู่เป็นประจำและสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความเคยชินจนเป็นนิสัย เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถวิเคราะห์คู่แข่งและเป็น The Winner บนโป๊กเกอร์ออนไลน์ได้ไม่ยาก